1 เลือกตามการใช้งาน

เลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกให้เหมาะกับการใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะกระเป๋าเป้มีหลากหลายแบบให้เลือกเรามาดูกันว่า กระเป๋าเป้แบบไหนจะเหมาะกับการใช้งานแบบใดบ้าง

ใช้สำหรับการเดินป่า
ควรเป็นเป้ที่มีน้ำหนักเบา ช่องเก็บของเยอะ เก็บได้เป็นระเบียบ มีที่ใส่ขวดน้ำ วัสดุของกระเป๋าแบบกันน้ำ ทนทาน
*ควรมีสายคาดเอวเพื่อถ่ายเทน้ำหนัก


ใช้ในการท่องเที่ยว
- เลือกที่มีน้ำหนักเบา
- มีช่องเก็บของเยอะเพื่อจัดสัมภาระเป็นสัดส่วน
- กันน้ำ ทนทาน
- มีที่กันกระแทก สามารถเก็บ gadget ได้ หรือกล้องถ่ายรูปและเลนส์
- รูปทรงสวยเหมาะเป็นพร็อพในการถ่ายรูป



ใช้งานในชีวิตประจำวัน
- ดีไซน์สวยเพราะต้องถือทุกวัน
- มีช่องเก็บของเพื่อจัดของได้อย่างเป็นสัดส่วนและเป็นระเบียบ
- เปิดปิดง่าย ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
- ใส่ notebook ได้ มีช่องบุกันกระแทก
- มีช่องด้านในเพื่อแยกเก็บอุปกรณ์ต่าง เช่น หูฟัง สายชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ เมาส์
- กันน้ำ
- มีช่องเก็บของหยิบใช้งานสะดวก เช่น ที่ใส่ บัตรรถไฟฟ้า ฯลฯ
2 เลือกวัสดุที่เหมาะสม

วัสดุของกระเป๋าก็เป็นที่อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องเลือกเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง เราควรเลือกกระเป๋าที่มีความทนทาน ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน กันน้ำ สำหรับการท่องเที่ยวค้างคืน เนื้อผ้าควรเป็นแบบ ไนลอน โพลีเอสเตอร์ หรือควอนต้า ที่สามารถกันน้ำได้
ถ้ากระเป๋าเน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน และการท่องเที่ยวแบบระยะสั้น ดีไซน์และ ความสวยงามอาจเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆ เน้นแบบเเฟชั่น หรือ การออกเเบบเรียบง่ายที่ใช้ได้ทุกวัน เช่น ผ้าแคนวาส ผ้าควอนต้า
3 เลือกขนาดที่เหมาะสม



ก่อนอื่นเราต้องดูสัมภาระและสิ่งของที่เราจะขนใส่กระเป๋าในเบื้องต้น และเลือกขนาดที่เหมาะกับการใช้งาน เช่นจะออกไปเดินทางท่องเที่ยว ค้างคืน ออกทริปกี่วัน ถ้าระยะสั้น ขนาดกระเป๋าไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ แค่เพียงไม่เกิน 35 ลิตร ก็น่าจะพอเพียง แต่ถ้าเดินทางยาวนานกว่านั้น ความจุก็ควรมากกว่า 35 ลิตร แต่ไม่ควรเกิน 80 เพราะจะเทอะทะมากเกินไปจนเป็นภาระ หรืออาจรบกวนคนรอบข้างขณะทำการเดินทาง
ส่วนใครที่ยังเรียน หรือทำงานแล้วต้องใส่ แลปท้อป หรือ งานเอกสารก็ต้องเลือกกระเป๋าที่มีขนาดสัมพันธ์กับของที่เราใช้ เช่น notebook เล็กก็ไม่จำเป็นต้องมีกระเป๋าที่ใหญ่เกินไป เพิ่มความคล่องตัวในการถือได้สะดวก